ภาพประกอบ The power of adaptation: www.veronicasicoe.com
โดยปกติ หากเราจะพูดถึงการทำ Digital Search Marketing การคัดสรร keywords ให้เหมาะสมกับธุรกิจ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ Brand Manager ส่วนใหญ่มักถูกสอนให้เลือก keywords ที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วถึงที่สุด ซึ่งมักจะเป็นคำสั้นๆ มีความหมายโดยรวม และมี Search Volume เยอะมาก คุณรู้หรือไม่ว่าการเลือกคีย์เวิร์ดนั้นส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ Digital marketing โดยตรง ซึ่งจริงๆ แล้วศาสตร์ของการเลือกใช้คำนั้นจะสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจในช่วงเวลานั้นๆ แต่ยังมีอีกเทคนิคหนึ่งที่จะเปิดเผยให้คุณพบว่าการเลือกใช้คำโดยคำนึงถึงเพียง Search Volume นั้นทำให้คุณอาจจะพลาดโอกาสดีๆ ทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย
ประเด็นสำคัญคือ Search volume ไม่ใช่เป้าหมายของการเลือกว่าจะใช้คีย์เวิร์ดอะไร หากแต่ควรพิจารณาเรื่องความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ กลยุทธ์การตลาดและที่สำคัญคือเว็บไซต์มีเนื้อหา หรือสินค้าที่เชื่อมโยงกับคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้หรือไม่
ในปีที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงปี 2014 นี้ เราพบการปรับตัวของพฤติกรรมการ Search อย่างขนานใหญ่ (Keywords Adaptation) จากผู้บริโภค โดยผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะลดการค้นหา keywords สั้นๆ ลง ดูรูปประกอบ 1 และ 2
ภาพประกอบที่ 1: เทรนด์การค้นหาคำว่า “รถยนต์”
พิจารณารูปที่ 1 พบว่าเทรนด์การค้นหาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ซึ่งข้อมูลนี้น่าจะเป็นคำตอบให้ผู้ที่ว่าจ้างทำ SEO ต้องนำไปพิจารณาใหม่ซะแล้ว
ภาพประกอบที่ 2: เทรนด์การค้นหาคำว่า “รถยนต์ มือสอง”
พิจารณารูปที่ 2 เลือกใช้คีย์เวิร์ดเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งพบว่าเทรนด์การค้นหาสอดคล้องกับสภาวการณ์ตลาดในขณะนี้ที่เป็นขาลงของเต้นท์รถมือสองเพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากหลายๆ ปัจจัย
ประเด็นสำคัญคือ Digital Adapter อย่างคุณจะมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับเทรนด์ด้วยวิธีไหนเพื่อให้แผนงานเดินหน้าได้ต่อไป
คำเฉลยอยู่ที่การเปลี่ยน trend ของผู้บริโภค จากการค้นหาคำสั้นๆ adapt ไปอยู่ที่การค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่สะท้อนกับความต้องการจริงๆ เทคนิคนี้เรียกว่า Long-tail หรือการหา Close-Variants keyword
ภาพประกอบที่ 3: Long-Tail เทคนิคการใช้คีย์เวิร์ดให้หลากหลาย
แนะเทคนิค Keyword Adaptation
นี่คงไม่ใช่เทคนิคที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะผมรู้ว่าในโลกที่มีแต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ จริงๆ ตัวผมเองก็ไม่ชอบคำๆ นี้ เพราะหากโลกนี้มีสิ่งต่าง ๆ ที่สมบูรณ์แบบแล้วก็คงไม่มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อีก และคงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากเลย…จริงหรือไม่ครับ ดังนั้น เทคนิคที่นำมาแชร์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้จากประสบการณ์ทำงานเท่านั้นเอง คุณก็ลองนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ Digital marketing เอาเองนะครับ
เลือกใช้เครื่องมือให้เป็น
ประเด็นสำคัญคือ อย่าใช้เครื่องมือชนิดเดียวเป็นเกณฑ์สำหรับค้นหาคีย์เวิร์ด คนส่วนใหญ่จะใช้ Google Keyword Suggest Tool ส่วนผมจะเพิ่มเติมด้วย Truehits, Google Analytics,Google webmaster แล้วแถมด้วยการทำ Sentiment analysis จาก Media ต่างๆ แล้วนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาจัดกลุ่ม คาดการณ์ความต้องการที่แท้จริงเพื่อให้ได้กลุ่มของคีย์เวิร์ดที่กว้างขึ้น
ผสมผสานคีย์เวิร์ดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
คุณคิดว่าคนที่ค้นหาคำว่า “รถยนต์” เขาต้องการอะไร ถ้าวัตถุประสงค์ของคุณคือต้องการคนที่มองหารถยนต์กระบะฟอร์ดมือสอง คุณควรใช้คีย์เวิร์ดให้ตรงกับที่คุณต้องการ ถ้าคุณเลือกใช้คำกว้างๆ สุดท้ายคุณก็จะได้แต่จำนวน Traffic แต่ไม่มีคนที่ซื้อสินค้าเลยสักคน แถมด้วยค่าจ้างทำ SEO สูงลิ่ว
ถามเพื่อนหรือคนรู้จักบ้างก็ได้
เชื่อหรือไม่ว่าในโลกความเป็นจริงนั้นยังมีหลายเรื่องที่ในอินเตอร์เน็ทไม่มี ถ้าคุณเห็นด้วยกับผมก็ลองถามคนไกล้ตัวดูก็ได้ว่า ถ้าจะไปซื้อของที่จตุจักรนั้น เขาจะไปซื้ออะไร บ่อยครั้งที่คนไกล้ตัวผมบอกว่าจะไปดูลูกหมาน่ารักๆ ไว้เลี้ยงสักตัว (ไอ้ที่มีอยู่นะเปิดฟาร์มได้แล้วมั้ง ==) แต่ไปจบที่กระเป๋า หรือไม่ก็แหวน…
ผมก็สรุปวิธีการมาพอประมาณ จริงๆ แล้วตัวผมเองใช้เทคนิคเยอะมากเวลาเลือกใช้คีย์เวิร์ดให้ลูกค้า ทั้งนี้ผมเองจะพิจารณาเรื่องคุณภาพของเว็บไซต์ควบคู่กันไปด้วยเสมอ
สรุป
เราอาจจะคุ้นๆ กับคำว่า Long-Tailed Keyword มาระยะหนึ่งแล้วเพราะมันไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายังมีผู้ประกอบการน้อยรายมากให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ผู้ประกอบการกว่า 90% จะให้ความสำคัญกับ Search volume มาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ ในขณะที่ Digital Marketing Adapter รุ่นใหม่ๆ จะใช้วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจมากกว่า
มาถึงตอนนี้ผมก็อยากได้คำแนะนำจากคุณผู้อ่านบ้านว่ามีประสบการณ์กับการเลือกใช้คีย์เวิร์ดเพื่อทำ SEO หรือทำ Digital marketing อย่างไรบ้าง มาแชร์ตรง Comment ได้เลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น