วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558

4 วิธี เตรียมตัวพูดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

4talk-success
ในบางครั้งที่เราจะสื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตาฟังเราอยู่ อาจดูไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้พวกเขาตั้งใจฟังเราได้ตลอดและได้รับสารทั้งหมดที่เราต้องการสื่อ บางทีพวกเขาอาจทำเหมือนเข้าใจ แต่สุดท้ายกลับแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังเข้าใจผิด ทำให้เราต้องหันกลับมามองตัวเองว่าเป็นเพราะเราหรือเปล่าที่นำเสนอออกไปได้ไม่น่าสนใจพอ เพราะหัวใจสำคัญของการพูดนั้นไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องสักอย่างออกไป แต่เป็นการสื่อไปถึงใจของผู้ฟัง เพื่อให้เรื่องที่เราพูดไปนั้นส่งผลกระทบ และให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เราคาดหวังไว้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความเข้าใจหรือความรู้สึกก็ควรจะไปให้ถึงขั้นนั้น ซึ่งนี่คือ 4 วิธีที่จะช่วยให้เรานั้นสามารถสื่อตรงใจผู้ฟังได้มากขึ้น
  1. ทำการบ้านให้ดี
การพูดหรือเล่าเรื่องก็เหมือนการขายของ ถ้าหากลูกค้าไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายพวกเขาคงไม่ซื้อของจากเรา การพูดก็เหมือนกัน เราต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มผู้ฟังของเราเป็นใครมีลักษณะแบบไหน เพื่อที่จะได้วางแผนการเล่าเรื่องและรูปแบบการเล่าให้เหมาะสม รวมถึงช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจและสนใจในสิ่งที่เราจะพูดได้มากขึ้น เช่น ถ้าเราต้องพูดให้กลุ่มวัยรุ่นฟัง ต้องปรับเปลี่ยนการเล่าเรื่องให้ดูทันสมัย หยิบยกเรื่องราวใกล้ตัวของวัยรุ่นมาเป็นตัวอย่างเพื่อดึงความสนใจให้ได้มากขึ้น
นอกจากการดูกลุ่มเป้าหมายแล้ว สิ่งถัดมาที่เราควรเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีก็คือข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ต้องมีการค้นคว้ามาอย่างละเอียดถูกต้อง ต้องมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หรือเล่าจากประสบการณ์ตรงก็ได้ ซึ่งการเตรียมพร้อมข้อมูลที่ว่านี้ ไม่เพียงแต่เตรียมเฉพาะในสิ่งที่เราพูดเท่านั้น เรายังต้องรู้ถึงรายละเอียดเบื้องลึก และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาด้วย เพื่อตั้งรับคำถามจากผู้ฟังในทุกๆ ข้อสงสัย ซึ่งจะทำให้สิ่งที่เราพูดนั้นมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่เตรียมข้อมูลเรียบร้อย การวางแผนลำดับการพูดและซ้อมพูดในเรื่องนั้นๆ อยู่บ่อยๆ จะช่วยให้เรามีความมั่นใจและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นก่อนที่จะเจอกับสถานการณ์จริง และยิ่งถ้าได้ไปซ้อมตามสถานที่จริงล่วงหน้าแล้วจะยิ่งช่วยลดอาการตื่นเต้นได้มากกว่าเดิม เราจึงควรหมั่นฝึกซ้อมเพื่อที่จะได้ดำเนินตามแผนการพูดที่วางไว้ได้อย่างถูกต้อง
  1. สร้างความประทับใจแรก
ความประทับใจแรกถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ฟังจะใช้ตัดสินเราถึงความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือในสิ่งที่เราจะพูดได้เลย ดังนั้นการวางบุคลิกภาพทั้งตอนก่อนขึ้นพูดและในขณะพูดนั้นสำคัญกว่าที่สิ่งเราจะพูดออกมาเสียอีก ดังนั้นตั้งสติให้ดี มีความสำรวมในทุกๆ อิริยาบถไม่ว่าจะเป็นจะเป็นการเดิน การยืนต่างๆ ให้ทำด้วยความมั่นใจ ยิ่งเมื่อได้ซ้อมมาแล้วหลายๆ ครั้ง ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราในขณะพูดมากขึ้นไปอีก
เมื่อเราอยู่ในตำแหน่งที่จะเริ่มพูดแล้วอย่าเพิ่งเริ่มพูดในทันที แต่ควรใช้ความเงียบเพื่อแสดงถึงความพร้อมของพูด และให้ผู้ฟังได้เตรียมตัวพร้อมตั้งใจฟังด้วย ซึ่งวิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ใช้ควบคุมบรรยากาศการฟังอย่างได้ผล
จากนั้นเริ่มต้นทักทายหรือใช้คำถามสั้นๆ ในการเปิดการสนทนาเช่น “วันนี้พวกคุณทุกคนเป็นยังไงกันบ้าง” ก็ถือเป็นวิธีการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลายก่อนเริ่มต้นการพูดให้กับผู้ฟังได้อีกด้วย
  1. ดึงความสนใจมาให้ได้
การดึงความสนใจมาจากผู้ฟังสามารถทำได้หลายวิธี แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ฟังนั้นรอฟังเราอย่างตั้งใจนั้นก็คือการพูดเกริ่นนำในช่วงแรก เนื้อหาเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินเลยว่าผู้ฟังนั้นอยากจะฟังเราต่อหรือไม่ ถ้าพวกเขาเห็นว่าการเกริ่นนำไม่น่าสนใจพอหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ก็ยากที่จะทำให้ผู้ฟังสนใจติดตามต่อกับเรื่องราวที่เหลือ ดังนั้นการเกริ่นนำต้องทำให้น่าสนใจ อาจใช้วิธีการยกตัวอย่างใกล้ตัวผู้ฟังที่น่าสนใจเข้ามาช่วยก็ได้ เพื่อให้ผู้ฟังได้รับรู้ว่าเรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องกับพวกเขา และน่าสนใจจริงๆ
การพูดแบ่งเนื้อหาแยกเป็นส่วนๆ หรือแบ่งเป็น Outline ก็ช่วยให้ผู้สนใจได้ดีกว่าการที่พูดรวมๆ ทั้งหมดทีเดียว เพราะผู้ฟังส่วนมากนั้นมีสมาธิสั้น ยิ่งถ้าเจอการอธิบายหรือบทบรรยายที่เน้นข้อมูลในปริมาณมากๆ ก็อาจทำให้สมาธิหลุดไปจนฟังต่อไม่รู้เรื่อง ทำให้ถ้าผู้ฟังเลิกสนใจในการพูดแบบรวมๆ ในทีเดียวนั้น จะทำให้พวกเขากลับมาฟังต่ออีกได้ยาก ต่างกับการที่แบ่งเป็นหัวข้อไว้ ซึ่งถ้าหากหลุดในข้อใดไป ผู้ฟังก็พร้อมที่จะเริ่มตั้งใจฟังในข้อใหม่อีกครั้งได้อยู่เสมอ โดยเราควรใช้สัญญาณบอกกับผู้ฟังก่อนเมื่อเรากำลังจะเปลี่ยนหัวข้อ เพื่อดึงความสนใจผู้ฟังกลับมาอีกครั้งใช้คำพูดอย่างเช่น “ต่อไปจะเป็นเรื่องของ…” หรือ “มาที่เรื่องถัดมากันเถอะ” สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนให้ผู้ฟังพร้อมฟังหัวข้อต่อไปอยู่เสมอ
รวมถึงรูปแบบการนำเสนอก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะดึงความสนใจมาจากผู้ฟังได้มากขึ้น การที่พูดอย่างเดียวอาจไม่พอในการนำเสนอ เราจึงควรเพิ่มความแปลกใหม่เข้าไป โดยการให้ผู้ฟังเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น อาจใช้การถาม-ตอบอยู่บ่อยๆ การให้จับกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิด หรือยกตัวอย่างแบบใช้บทบาทสมมติเพื่อให้น่าสนใจขึ้น รวมไปถึงการใช้เสียงให้เข้ากับรูปแบบการพูดด้วย เพราะการพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกันตลอดมีแต่จะสร้างความง่วงให้กับผู้ฟัง ลองฝึกฝนการปรับโทนเสียงในเครื่องอัดเสียงดูก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้น้ำเสียงของเรานั้นมีชีวิตชีวาและช่วยกระตุ้นความสนใจจากผู้ฟังมาอีกด้วย
และเมื่อใดที่เรามั่นใจว่าเราสามารถดึงความสนใจมาจากพวกเขาได้แล้ว สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือการใส่สาระสำคัญที่เราต้องการจะเน้นให้กับผู้ฟังลงไปได้เลย เพราะเมื่อถึงจุดที่ผู้ฟังตั้งใจฟังได้อย่างเต็มที่แล้ว จะส่งผลให้พวกเขาเก็บคำที่เราพูดเหล่านั้นไปคิดแม้ว่าเราจะพูดจบไปแล้วก็ตาม
  1. การสรุปเนื้อหา
เมื่อเราได้พูดทุกๆ หัวข้อจบไปแล้ว อย่าลืมทบทวนสาระสำคัญของสิ่งที่เราเล่าออกไปโดยจัดกลุ่มเป็นหัวข้อต่างๆ ในการจบการนำเสนอ และสัญญาณล่วงหน้าในการสรุปด้วย อย่างเช่น สุดท้ายแล้ว… จากนั้นค่อยไล่หัวข้อต่างๆ ที่สำคัญมากน้อยลงมาตามลำดับ และใช้คำพูดที่จะส่งผลกระทบให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกตามที่เราต้องการพวกเขารู้สึกแม้ว่าจะจบการฟังไปแล้ว เช่น การให้กำลังใจ ก็อาจตบท้ายด้วยคำพูดว่า พวกคุณก็สามารถทำได้ทุกคน

  • • •
มีเทคนิคมากมายที่จะทำให้คนฟังนั้นสนใจเราจริงๆ ให้ได้ลองนำไปปรับใช้ การซ้อมบ่อยๆ และวางแผนการพูดดีๆ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพูดให้คนฟังเลยก็ว่าได้ เพราะการซ้อมนั้นจะช่วยให้เรามีความมั่นใจในการพูดมากขึ้น และการวางแผนนั้นจะทำให้เราไม่หลุดปากเนื้อหาที่เราต้องการนำเสนอ หากมีการเตรียมความพร้อมแล้วเป็นอย่างดีแล้ว การพูดให้คนตั้งใจฟังนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

5 คุณลักษณะที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จ

คุณเคย สงสัยไหมว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จ? ลองมองดูรอบตัวคุณ คุณจะพบว่าเพื่อนของคุณ หรือผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จนั้น มีคุณลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าการใช้ชีวิตจะแตกต่างกันก็ตาม และคุณสมบัติที่ว่านี้เองที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ
  • มีความคิดริเริ่ม ผู้ที่ประสบความสำเร็จ มักริเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง เขาสามารถคิดและทำได้โดยไม่ต้องรอใครบอกให้ทำ หรือบอกว่าเขาต้องทำอย่างไร ทั้งยังความเต็มใจและเต็มที่ในการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมจากเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งผู้บังคับบัญชาด้วย
  • สร้างแรงจูงใจภายใน ผู้ที่เชื่อในสิ่งที่เขากำลังทำ มีแรงบันดาลใจภายในตนเอง จะมีความสุขกับการทำงานที่ตนเองรัก มากกว่าจะคำนึงถึงค่าจ้าง หรือเงินเดือน ซึ่งเป็นแรงจูงใจภายนอก คนเหล่านี้จะทำงานอย่างหนัก ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครบังคับให้ทำ แต่ไฟในตัวเขาเองที่เป็นแรงจูงใจในการทำงานให้สำเร็จ
  • ไม่กลัวความล้มเหลว อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์เครื่องแรกของโลกกล่าวไว้ว่า “เมื่อประตูบานหนึ่งปิด จะมีประตูอีกบานเปิด แต่เรากลับมัวแต่เสียใจและสนใจเฉพาะบานที่ปิด จนมองไม่เห็นประตูอีกบานที่เปิดรอเราอยู่”ความล้มเหลวและความผิดหวังในชีวิตเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนที่ประสบความสำเร็จได้นั้นล้วนแล้วแต่ได้รับบทเรียนจากความล้มเหลวและความ ผิดหวังมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะล้มลงสักกี่ครั้งก็ไม่ยอมพ่ายแพ้ แต่กลับพยายามที่จะลุกขึ้นยืนให้ได้ โดยนำบทเรียนจากความผิดพลาดมาแก้ไขปรับปรุง เรียนรู้ และสนุกไปกับสิ่งที่กำลังทำ เขาไม่ยอมปล่อยให้ตนเองจมอยู่กับความผิดหวัง เขาจึงพบกับความสำเร็จในที่สุด
  • คนที่ประสบความสำเร็จให้ความเคารพผู้อื่น คนเก่งที่มีความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) นั้นอาจไม่ประสบความสำเร็จเสมอไป หากพวกเขาขาดความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) คนที่จะประสบความสำเร็จ นอกจากจะเก่งแล้วยังต้องมีความสุภาพ และปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพเท่า ๆ กับที่พวกเขาเคารพตนเองเช่นกัน
  • ไม่บ่น ไม่ตำหนิผู้อื่น คุณลักษณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งของผู้ที่ประสบความสำเร็จ คือ พวกเขาไม่เคยบ่น ตำหนิผู้อื่น เพราะการบ่น การตำหนิผู้อื่น จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ดังนั้น แทนที่จะบ่น เขากลับคิดหาทางแก้ไขสถานการณ์ด้วยวิธีอื่นแทน จึงไม่น่าแปลกในเลยที่คนเหล่านี้จะชนะใจ และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง รวมทั้งผู้บังคับบัญชา

ุ6 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ

ขั้นตอนที่ ขั้นตอนที่จะพาคุณไปพบกับความสำเร็จบนถนนธุรกิจเครือข่าย
"การหาเงินในช่วงแรกของการทำธุรกิจเครือข่าย"
สิ่งที่จะทำให้เราอยู่รอดบนธุรกิจเครือข่ายคือ

 “เงิน” 

ปัจจัยหลักของการดำเนินธุรกิจ 
เพราะว่าในช่วงแรกๆถึงคุณจะเก่งขนาดใหนก็ตาม 
โบนัสที่ได้มานั้นแทบจะไม่มี 
ธุรกิจเครือข่ายมันเป็นธุรกิจที่หวังผลในระยะยาวมาก 
ช่วงแรกๆนั้นคุณก็ต้องมีเงินเพื่อหมุนเวียนในธุรกิจ
(การสร้างกระแสเงินสด)  
คนเก่งๆก็นำสินค้าเอาไปขายราคาเต็มกินกำไรจากการขายปลีกไป 
แต่ผมเชื่อว่าคุณที่มานั่งอ่านขั้นตอนที่ผมกำลังสอนคุณอยู่นี้
"ถ้าคุณขายของเก่ง"
คงไม่มานั่งเรียนวิธีของผมให้เสียเวลาจริงไหมครับ 
คุณออกไปขายของให้กับคนอื่นๆ กินกำไรขายปลีกสบายใจไปแล้ว

แต่ไอ้เราคนขายของไม่เป็นนี่สิจะทำยังไง 
ส่งเมลให้เพื่อนไม่รู้กี่ฉบับ ว่าสินค้าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ 
เพื่อนรักมันก็ไม่เห็นจะสั่งของเราไปใช้เลยสักอัน
เอาลงเว็ปขายของก็เงียบฉี่ 
เหล่านี้ผมก็ลองมาหมดแล้วครับ
แทบจะหมดใจทำธุรกิจแห่งความฝันทันที 
เพราะว่ามันยิ่งทำยิ่งเหมือนความฝันที่เกินเอื้อม 
คุณรู้สึกเหมือนกันกับผมไหม
ตั้งใจอ่านแล้วคิดตามนะครับ มาถึงช่วงสำคัญแล้ว 
ผมจะถามคุณว่าทำไมคุณไม่ลองหันมาขาย
สิ่งที่คนอยากประสบความสำเร็จต้องการเล่าครับ

 “ขายอาหารให้คนหิว” 

มาต่อขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่จะพาคุณไปพบกับความสำเร็จบนถนนธุรกิจเครือข่ายกันครับ

เชื่อเถอะครับว่าคนที่กำลังอ่านขั้นตอนของผมตอนนี้ 
เป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้ทุกอย่างเกื่ยวกับธุรกิจของเขา 

“เพื่อให้ตัวเขาเองประสบความสำเร็จ” 

สิ่งที่คุณซึ่งเป็นว่าที่อัฟไลน์ของคนเล่านั้นจะต้องทำคือ 


แทนที่จะไปขายสินค้า คุณไม่ลองขายความรู้ 
ขายวิธีการ ที่จะพาเขาไปสู่ความสำเร็จ เช่น   
แนวทางการทำธุรกิจแนวใหม่ , วิธีสู่ความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย 
แต่ต้องเป็นสิ่งที่อ่านแล้วเหมือนจะจับต้องได้ 
ก็คือเมื่ออ่านหรือศึกษาแล้วเห็นภาพและนำไปปฏิบัติได้ครับ 
และขายในราคาไม่แพงไม่เกิน 500 บาท 

คุณคิดว่าเขาจะซื้อไหม? 

“ยังไงก็ซื้อครับ”


“การเป็นผู้นำครับ” 

ผู้ที่เป็นทุกอย่าง ไก้ไขปัญหาได้ 
และเป็นคนที่เขาให้ความเชื่อมั่นว่า 
หากเขาเหล่านั้นสมัครร่วมธุรกิจกับคุณ
 เขาเหล่านั้น เชื่อว่าคุณจะพาเขาพบกับความสำเร็จได้
จากที่เขาเหล่านั้นไม่เคยพบกับมันเลย 
อย่างที่คุณมั่นใจว่าผมจะพาให้คุณไปพบกับความสำเร็จ
แล้วมาสมัครกับผมนั่นแหละครับ 
สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเลยคือ 
การที่ใครก็ตามจะมาสมัครร่วมธุรกิจ 
สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจคือ “คุณ”

และผมก็เชื่อว่าคุณก็เป็นผู้นำ และสามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างดี
เพราะว่าเอกลักณ์อย่างหนึ่งที่คุณมี เป็นสิ่งสำคัญของการเป็นผู้นำนั่นก็คือ
“กล้าที่จะเรียนรู้ และ เรียนรู้ก่อนที่จะลงมือทำโดยไม่รู้ข้อมูลเลย”
และคนที่เดินเข้ามาเพื่อสมัครกับคุณต้องการนั้นคือ วิธีที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จ
สิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือ ทำให้เขาเห็นหนทางไปสู่ความสำเร็จ
ด้วยวิธีของตัวคุณเอง
อย่างที่ผมกำลังทำให้คุณเห็นตอนนี้นั่นละครับ
และด้วยวิธีนี้ คุณไม่จำเป็นจะต้องออกไปเดินหาคนให้เมื่อย
คนที่สนใจในธุรกิจแบบคุณ
คนที่คิดจะทำธุรกิจเครือข่ายเหมือนคุณ
คนที่อยากจะประสบความสำเร็จอย่างคุณ
คนเหล่านั้นจะเดินเข้ามาหาคุณเอง

มาต่อขั้นตอนที่ ขั้นตอนที่จะพาคุณไปพบกับความสำเร็จบนถนนธุรกิจเครือข่ายกันครับ

การโฆษณา (Advertising)


คนทำธุรกิจเครือข่าย 95% ไม่ประสบความสำเร็จ
เพราะว่าเขาขายเพียงอากาศทางธุรกิจ
แต่ไม่ได้ขายวิธีแห่งความสำเร็จ
บน Internet คุณเห็นข้อความเหล่านี้

หารายได้เสริม 5,000-10,000 บาท/เดือน
หรือ
ทำงานจากที่บ้านผ่านอินเทอร์เน็ต 1 - 3 หมื่นบาท/เดือน
แล้วคุณสนใจคลิกเข้าไปดูไหม
กับ
วิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่ายได้วิธีที่จะสปอนเซอร์ผู้มุ่งหวังของคุณ..ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนแล้วได้ผลจริง ถึง 90%
หรือ
วิธีที่จะพาคุณประสบความสำเร็จบนธุรกิจเครือข่ายได้ผลจริง 90%  เอกสิทธิ์สำหรับคุณ

คุณจะเลือกคลิ๊กเข้าไปดูอันไหนครับ

แน่นอนผมเลือกสองประโยคล่าง
เพราะว่าเราต่างต้องการวิธีที่จะทำให้ตัวเราเองประสบความสำเร็จ
มันเป็นประโยคสำหรับ

“การสร้างแรงดึงดูดที่จะพาคนที่อยากประสบความสำเร็จมาพบกัน”

คุณรู้แล้วนี่ครับว่าคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จต้องการอะไร
เขาไม่ได้ต้องการสินค้าที่ดี
แต่เขาต้องการวิธีที่จะพาตัวเขาไปสู่ความสำเร็จ
คุณก็ขายสิ่งที่เข้าต้องการสิครับ
ขายวิธี ขายความสำเร็จ

และเมื่อเขาเดินเข้ามาหาคุณแล้วสิ่งที่คุณต้องทำคือ
การวางตัวให้เป็นผู้นำ
ที่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้เขาได้
ที่สามารถชี้หนทางที่จะพาเขาไปสู่ความสำเร็จได้
และผมก็เชื่อมั่นว่า วิธีของผมก็สามารถตอบโจทย์ทั้งสองข้อนี้ได้ครับ
ความจริงคือคนที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายนี้ได้

ก็คือคนที่ทำการตลาดและทำการโฆษณาได้ดีกว่าคนอื่น
โฆษณาตัวคุณเองครับ โฆษนาความเป็นผู้นำของคุณ

เริ่มเห็นหนทางที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จหรือยังครับ
ผมคิดว่าเมื่อคุณอ่านบทความของผมมาจนถึงวันที่ตอนนี้
คุณเป็นนักธุรกิจเครือข่ายที่มีความเก่งกาจในระดับนึงแล้ว

และถึงแม้คุณจะไม่เคยทำธุรกิจเครือข่ายมาก่อนเลยก็ตาม
ด้วย วิธีการของผม ผมคิดว่าคุณสามารถแข่งขันกับคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายแบบนี้มานาน..แต่เขายัง ทำการโฆษณาแบบเดิมๆอยู่และไม่รู้ในสิ่งที่คุณรู้เขาเหล่านั้นจะไม่มีทางที่ จะเอาชนะคุณได้เลย
มาต่อขั้นตอนที่ ขั้นตอนที่จะพาคุณไปพบกับความสำเร็จบนถนนธุรกิจเครือข่ายกันครับ

สิ่งที่ไม่ควรทำถ้าอยากจะคุณอยากประสบความสำเร็จบนธุรกิจเครือข่าย


ในวงการธุรกิจเครือข่ายมีคนที่เรียกตัวเองว่านักธุกรกิจเครือข่าย
จำนวนมากมายที่สมัครเข้ามาแล้วสักพักก็ออกไปอย่างเงียบๆ
เพราะคนเหล่านั้นตัดสินใจเข้ามาด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้น
เพราะคนเหล่านั้นเห็นโอกาศทางธุรกิจแต่มีการทำแบบเดิมๆ เช่น

-คิดรายชื่อ และเบอร์โทรคนที่รู้จัก  100 คน หรือให้ได้มากที่สุด
-โทรไปหาเขาแล้วพูดเรื่องโอกาสทางธุรกิจด้วยความตื่นเต้น
-พูดเรื่องผลิตภัณฑ์ว่าไม่มีใครเทียบได้
-พูดเรื่องแผนการรับรายได้ที่คุณเห็นว่าดีที่สุด

แล้วผลที่ได้รับหากว่าคุณทำคนเดียว
แทนที่จะได้คนเข้าร่วมธุรกิจ 100 คน คนจะหายไป 101 คน
- 100 คนนั้นปฏิเสธที่จะร่วมธุรกิจกับคุณ 70 คน เพราะเขาไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพูด
- 30 คนบอกว่าขอคิดดูก่อนรอให้เราประสบความสำเร็จก่อนถึงจะร่วมด้วย
และคุณก็จะหายไปกับ 100 คนของคุณ เพราะว่าไม่มีใครเอากับคุณด้วย

สมมุติว่า ผมกับคุณเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วอยู่ๆผมมาบอกคุณว่า
“เฮ้ยเพื่อนมาร่วมธุรกิจด้วยกันไหม
บริษัทนี้จ่ายผลตอบแทนสูงมากเลย
แค่หาคนมาสมัครต่อเราแค่นั้นเอง”

เจอคำพูดแบบนี้เข้าไปคุณจะทำไหมครับ เอ้า ผมแถมให้นิดหน่อยด้วยการหิ้วตระกล้าไปด้วยแล้วสาธิตสินค้าด้วย คุณจะมองยังไงครับ
คนเราส่วนใหญ่ไม่ชอบงานขายอยู่แล้ว เจอสาธิตเข้าไป ในใจเขามันก็คิดแล้วว่า นี่ต้องทำอย่างนี้แล้วไปขายสินค้า ถูกไหมครับ สุดท้ายก็แค่ช่วยซื้อเพราะว่าเกรงใจ นั่นสือสิ่งที่ได้

ผมจะบอกคุณว่า ตัวคุณเองจะเป้นคนกำหนดทิศทางธุรกิจของคุณเอง
ความเป็นผู้นำของคุณนั่นละครับ ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะสมัครกับคุณไหม



สิ่งที่ต้องห้ามหากมีคนเดินเข้ามาหาคุณด้วยวิธรการของผม
ห้ามพูดเรื่องการขาย เรื่องนี้ผมได้เขียนรายระเอียดไว้ในหนังสือ MLM  SUCCESS แล้วครับ
พูดเรื่องการขายขึ้นมาเมื่อไหร่จบเลย คุณพลาดจะได้เพชรเม็ดงามในทันที
สิ่งที่คุณจะต้องพูดก็คือ
“วิธีที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จ” ถึงจะถูกต้อง
พูดให้เขาเห็นหนทางที่จะประสบความสำเร็จ อย่างที่คุณเห็น

ด้วยวิธีของคุณ ให้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง..
ว่าวิธีของคุณนั้น..มีเหตุ และผลอย่างไร..
จริงหรือไม่จริง..แล้วจะประสบความสำเร็จได้ไหมด้วยวิธีนี้
ถ้าเขาคิดว่าจริง..เขาก็จะเชื่อคุณ..

ถึงแม้เขาจะยังไม่ร่วมทำธุรกิจกับคุณ..เขาก็ต้องสนใจในวิธีของคุณแน่นอน..ถึงเวลานั้นแล้วเราก็ใช้วิธี.."การสร้างกระแสเงินสด"ได้เลยครับ

มาต่อขั้นตอนที่ ขั้นตอนที่จะพาคุณไปพบกับความสำเร็จบนถนนธุรกิจเครือข่ายกันครับ

หลักในการเลือกทำธุรกิจเครือข่าย

ที่ผ่านมาคุณเลือกทำธุรกิจเครือข่ายนั้นเพราะว่าอะไร?
ขั้นตอนนี้เราจะมาวิเคราะห์การเลือกบริษัทกันครับ
เซียนของธุรกิจเครือข่ายได้พูดเอาไว้ว่า

ธุรกิจเครือข่ายที่ดีต้องมีองค์ประกอบ อย่างดังนี้

1. Company บริษัทต้องมีความมั่นคง แข็งแรง ฐานะทางการเงินต้องมั่นคง
2. Product สินค้าต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ไม่มีคู่แข่ง
3. Plan แผนรายได้ต้องยุติธรรม และมีรายได้ที่คุ้มค่า
4. Trends สินค้าต้องมีแนวโน้มที่เป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคตและปัจจุบัน
5. Timing ช่วงเวลาต้องอยู่ในช่วงที่เริ่มต้นไม่นาน และอยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโต
6. Team ต้องมีผู้นำที่มีความเป็นมืออาชีพ สามารถช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จได้จริงๆ
7. Management ต้องมีระบบการจัดการที่เป็นมืออาชีพ ผู้บริหารงานต้องมีประสบการณ์มายาวนานในด้านธุรกิจเครือข่าย

จริงหรือ?

ในอดีตนั้นอาจจะจริง แต่ในปัจจุบันนั้นโลกได้เปลี่ยนไปมากในความเป็นจริงแล้ว...สิ่งที่ควรคำนึงในการเลือกทำธุรกิจเครือข่ายคือ

1. Company บริษัท ต้องมีความมั่นคง แข็งแรง ฐานะทางการเงินต้องมั่นคงอันนี้แน่นอนครับ หากเราตัดสินใจที่จะสร้างเครือข่ายเราคงอยากเหนื่อยทีเดียวแล้วนั่งกินนอน กินจนปั้นปลายของชีวิต หากบริษัทไม่มีความมั่นคงเกิดหนีหายไปเราก็ต้องมาเหนื่อสร้างกันใหม่อีก

2.Trends สินค้าต้องมีแนวโน้มที่เป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคตและปัจจุบัน ถึงผลิตภัณฑ์จะดีแค่ไหนอีกไม่นานก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าเกิดขึ้นมาแทน
3.Timing ช่วงเวลาต้องอยู่ในช่วงที่เริ่มต้นอยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโต ทำให้การสร้างเครือข่ายของเราเป็นไปได้ง่าย หากเลือกบริษัทที่มากกว่า 20 ปี การหาผู้มั่งหวังนั้น ยากมากบางคนแค่ได้ยินชื่อก็ไม่สนใจฟังแล้วครับ และคนไทยชอบทำอะไรตามกระแส ทุกธุรกิจเมื่อถึงจุดอิ่มตัวจะทำให้เราชวนผู้มุ่งหวังยากขึ้น เครือข่ายที่เราครอบครองจะน้อยลง
4.Coach ต้องมีโค้ช(อัพไลน์)ที่มีความเป็นมืออาชีพ สามารถช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จได้จริงๆ(ผู้นำคุณต้องมีระบบ ที่ สั้นๆ ง่ายๆ ถ่ายทอดได้ กับคนทุกประเภทเพื่อแก้ปัญหาในการเลียนแบบทำซ้ำให้กับคนใหม่ที่เข้ามา)
5.Plan แผนรายได้ ต้องยุติธรรม เท่าเทียมและป็นไปได้จริง ไม่ว่าจะเริ่มที่เงินเพียง 500 บาท หรือ มากกว่านั้นก็จะต้องได้ผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทไม่จำเป็นต้องปิดใช้เงินจำนวนมากมาปิดยอดเพื่อตำแหน่ง หรือปิดเพื่อได้ส่วนแบ่งของเปอร์เซน เพราะส่วนแบ่งหรือเปอร์เซนเหล่านั้นจะต้องถูกระบุไว้ในแผนการตลาดอยู่แล้ว ด้วยเงินเพียงหลักร้อยก็จะต้องได้สิ่งเหล่านั้นด้วย
    แผนการตลาดเครือข่ายแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
5.1 ทำได้แค่ในประเทศ เช่น ธุรกิจเครือข่าย Local Brand
5.2 ทำต่างประเทศได้บางส่วน ชนชาติ บางชนชาติเท่านั้น
5.3 ทำได้ทั่วโลก เรียกว่า Seamless World wide ท่านสามารถมีองค์กรในต่างประเทศได้ โดยการใช้รหัสที่ท่านสมัครในประเทศนั้นๆ ชวนเพื่อนข้ามชาติได้ โดยการใช้ สื่อ ออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ และได้ยอดขายจากการซื้อในต่างประเทศได้ รายละเอียดทุกอย่าง

คราวนี้คุณรู้แล้วใช่ไหมครับว่าคุณต้องเลือกทำกับบริษัทอะไรแล้วต้องเลือกทำกับใครคุณถึงจะประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายนี้ได้
มาต่อขั้นตอนที่ ขั้นตอนที่จะพาคุณไปพบกับความสำเร็จบนถนนธุรกิจเครือข่ายกันครับ

สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะทำธุรกิจเครือข่าย

คุณเคยไหมครับที่ถูกพาเข้าไปในห้องๆหนึ่งได้ดูวิดิทัศน์ ได้ฟังแชร์ประสบการณ์ และจบด้วยการสมัครโดยที่ยังไม่ทราบแผนการตลาด และสินค้าเลย สุดท้ายก็ได้ของกองเท่าภูเขากลับบ้าน ผมก็เคยครับ เมื่อนานมาแล้ว
นั่นคือการตัดสินใจด้วยอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเครือข่ายแบบได ส่วนใหญ่จะไม่ประสบความสำเร็จคนส่วนน้อยที่เป็นคนพิเศษเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จจากการสมัครด้วยอารมณ์


สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือทิ้งอารมณ์ตื่นเต้นที่เห็นโอกาสทางธุรกิจก่อน
แล้วเตรียมตัวก่อนที่จะทำธุรกิจเครือข่าย

สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่คุณจะทำทำธุรกิจเครือข่ายก็คือ

“ศึกษาระบบ”

คนฉลาดมักจะศึกษาก่อนที่จะลงมือทำเสมอ

1.คิดวิธีการสร้างรายได้ระยะสั้น
2.ศึกษาการสร้างระบบที่สามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จภายในระยะเวลา 90 วัน เพราะถ้าคุณสำเร็จช้าจะเกิดแรงต้านจากคนรอบข้าง

ศึกษารายละเอียดได้ที่ (หนังสือMLM SUCCESS)

หากคุณคิดว่าตัวคุณเองไม่สามารถทำได้ทั้ง ข้อนี้สิ่งที่คุณทำอยู่นั้นก็ยังไม่ใช่ระบบที่แท้จริงแสดงว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะทำธุรกิจเครือข่ายแบบนี้


อย่าตัดสินใจลงทุนสมัครกับบริษัทใด โดยที่คุณไม่ได้ศึกษา
มิฉะนั้นคุณจะพบกับความล้มเหลวอย่างแน่นอน

มาถึงบทนี้ผมเชื่อว่าคุณได้เห็นหนทาง ได้แง่คิดและไอเดีย ที่จะพาไปสู่ความสำเร็จแล้วแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะประสบความสำเร็จได้ชั่วข้ามคืนแต่อย่าเพิ่งท้อนะครับ ผมเชื่อว่าวิธีของผมเป็นคำตอบให้กับคุณได้ มันอยู่ที่คุณว่าจะใช้วิธีของผมไปสู่ปลายฝันได้ไหม
ถ้าหากว่าคุณยังทำ ข้อที่ผมว่าไม่ได้ คุณสามารถโทรมาปรึกษาผมได้ตลอดเวลา
“อย่าลังเลที่จะหาคำตอบหากคุณคือผู้นำ”
ธุรกิจเครือข่ายที่แท้จริงนั้น ต้องสามารถตอบคำถามให้กับคนที่จะเข้ามาใหม่ได้ทุกเรื่อง ไม่มีการปิดบังในเรื่องของวิธีการทำงาน หรือวิธีสร้างเครือข่าย ทำให้คนที่กำลังจะเข้ามาใหม่ได้มั่นใจ และรู้ว่าเมื่อเข้ามาแล้วจะต้องทำอย่างไรในขั้นตอนแรก และจะต้องทำอย่างไรในขั้นตอนต่อไป  และเมื่อไหร่เขาถึงจะประสบความสำเร็จ



ขอ แสดงความยินดีครับ  คุณโชคดีมากที่ได้มาเรียนรู้ใน ขั้นตอนสู่ความสำเร็จของผม ที่จะเป็นอีกหนึ่งหนทางที่สามารถพาคุณให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ผมบอกได้เลยว่าในธุรกิจเครือข่ายนั้น คุณยังต้องเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างครับ มันไม่ได้มีสูตรตายตัว แต่วิธีของผมนั้นพอดีว่ามันตอบโจทย์ของคุณได้มากกว่าวิธีอื่น ผมก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ในระยะเริ่มต้นเราได้เปรียบครับ เพราะว่าวิธีนี้ มันยังไม่แพร่หลาย หากคุณคว้าโอกาศนี้ไปผมเชื่อว่าคุณประสบความสำเร็จแน่นอน


สิ่งที่สำคัญก็คือคุณมีความเข้าใจในคำว่า
“ธุรกิจเครือข่าย”
ลึกซึ้งขนาดไหน
ระบบที่แท้จริงที่ทำให้คุณได้โบนัสหรือค่าตอบแทนมานั้นเป็นอย่างไร


cr. http://sixforsuccessandsixforyou.blogspot.com/