ถ้าคิดว่าโลกนี้เป็นโรงละครที่เรากำลังรับบทโต้ตอบกับตัวละครอื่นๆ บางคนก็เหมือนโดนผู้กำกับแกล้งให้รับบทหนัก ต้องร้องไห้ช้ำใจเพราะถูกหลอกอยู่บ่อยๆ ยิ่งนึกว่าจริงใจด้วย ก็ยิ่งต้องพบความจริงในภายหลังว่าที่แท้เขากะเล่นไม่ซื่อตั้งแต่ต้น จะในเกมความรักหรือเกมธุรกิจก็ตาม
ก่อนอื่นขอให้มองว่าพื้นฐานของมนุษย์เป็นไปในทำนองเดียวกันคือ ‘อยากเอาเข้าตัว’ แต่ละคนเริ่มคิดออกมาจากจุดนี้ ความแตกต่างขึ้นอยู่กับใครจะถูกอบรมให้มีมโนธรรมต้านทานความเห็นแก่ตัวมากน้อยเพียงใด
ถ้าคุณมองว่าการมี ‘ใจจริง’ หมายถึงการซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียวไม่แปรผันเป็นอื่น ก็ต้องเห็นให้ซึ้งเสียก่อนว่าใจจริงสร้างขึ้นด้วยอะไร หรือใจจริงมาจากไหน อย่ามองด้วยความคาดหวังเผินๆว่าโลกนี้มีใครคนหนึ่งถือกำเนิดเกิดมาพร้อมกับมีใจจริงติดตั้งไว้ในตัวสำเร็จรูป ทุกคนต้องผ่านสัญชาตญาณเอาเข้าตัวมาก่อน เริ่มตั้งแต่ร้องอ้อแอ้ขอข้าวแม่กินเป็นต้นมา
พอโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ละคนพบสิ่งน่าชอบน่าชังมากมาย นอกจากนั้นยังเจอสอนให้เอาแต่ได้บ้าง เจอสอนให้เสียสละบ้าง ในที่สุดทุกคนจะไปถึงจุดของการตัดสินใจว่าจะมีชีวิตแบบไหน คิดเอาหรือคิดให้เป็นหลัก
คนที่ตัดสินใจว่าจะคิดเอาเป็นหลักนั้น นึกถึงใจคนอื่นมากกว่าใจตัวเองไม่เป็นหรอกครับ พอเขาได้สิ่งที่ต้องการ เขาก็พร้อมจะสลัดเราทิ้ง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักหรือหุ้นส่วนธุรกิจของเขา
คราวนี้ลองคิดดูว่าโลกกำลังเต็มไปด้วยคนคิดเอาหรือคนคิดให้มากกว่ากัน? ถ้าพูดกันแบบไม่อ้อมค้อมก็คือโลกนี้เต็มไปด้วยคนคิดเอา จะมีสักกี่คนที่คิดให้ ดังนั้นคุณจึงกำลังแสวงหาสิ่งที่หาได้ยากประมาณเข็มในมหาสมุทร
วิธีที่จะเจอคนจริงใจกับเรา ไม่ว่าในด้านความรักหรือธุรกิจ จึงต้องไม่ใช่ด้วยความบังเอิญ ทำนองเดียวกับที่ไม่มีใครงมเข็มในมหาสมุทรเจอโดยปราศจากเครื่องช่วย ซึ่งในที่นี้ก็คือกรรมนั่นแหละครับ คุณต้องเข้าใจหลักกรรมข้อหนึ่ง คือเมื่อให้สิ่งใดย่อมไม่สูญเปล่า ต้องมีการสะท้อนตอบเป็นการได้รับสิ่งนั้นคืนมาเสมอ ฉะนั้นตอนนี้อยู่ในช่วงรับความไม่จริงใจซึ่งเราเคยทำไว้กับใครมาก่อนก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าขอให้สร้างเหตุ สร้างเครื่องช่วยให้เราไปพบกับคนจริงใจในกาลข้างหน้า คือพยายามจริงใจกับคนอื่นโดยไม่ย่อท้อก็แล้วกัน
ถ้าคุณซื่อกับคนอื่น ไม่คิดหลอกคนอื่นได้ทั้งชาติ ชีวิตนี้คุณจะมีใจที่สะอาดของตัวเองเป็นเพื่อนแท้ และภพต่อไปคุณจะไม่ถูกกรรมเหวี่ยงไปอยู่ในหมู่คนอสัตย์
อีกประการหนึ่ง ถ้าคุณต้องการหาเข็มในมหาสมุทรให้เจอก่อนตาย คุณไม่ควรรู้แค่ว่าเข็มมันอยู่ในมหาสมุทร คุณไม่ควรโดดตุ๋มลงไปเฉยๆตรงไหนก็ได้ ก่อนอื่นคุณควรสืบให้พอรู้เป็นเค้าเป็นแนว ว่าเข็มน่าจะหล่นอยู่ในย่านใด แล้วค่อยใช้ความจริงใจดำดิ่งลงไปค้นหา จึงจะพอมีสิทธิ์เจอกันได้
ขอให้พิจารณาดู ปัจจุบันเรามีอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์กับผู้คนมากหน้าหลายตา พอจะหาคู่ หาความรัก หาความจริงใจ เราก็มักตระเวนไปตามเว็บบอร์ดหรือห้องสนทนาที่มีชื่อตรงตามเกณฑ์นั้นๆ เช่นเว็บหาความรัก หรือห้องหาคนจริงใจ ตรองดูเถิดว่าโอกาสจะได้เจอนั้นมีมากน้อยแค่ไหน เสือหิวย่อมรอตะครุบกวางตามแหล่งน้ำฉันใด ชายเจ้าเล่ห์ย่อมดักรอสาวหน้าซื่อตามแหล่งถามหารักฉันนั้น
บางทีที่เราไม่เจอสิ่งที่ต้องการก็เพราะเราแสวงหาผิดที่ เราคาดหวังว่าคงเจอคนจริงใจตามบ้านใกล้เรือนเคียง ตามอาคารสำนักงาน หรือตามสถานบันเทิง นั่นก็อาจเป็นไปได้ แต่ยากหน่อย เพราะตามความน่าจะเป็นเรามักเจอ ‘คนธรรมดา’ ที่คิดเอาเข้าตัวกันโดยมาก ทำไมไม่ลองมองว่าคนจริงใจควรอยู่ตามงานบุญ ตามเว็บธรรมะ หรือห้องสนทนาเรื่องศีลเรื่องธรรม
ไม่ต้องกลัวว่าตามงานบุญหรือตามแหล่งกิจกรรมธรรมะทั้งหลายจะชวนคุณคุยเรื่องหลุดพ้นลูกเดียว และในอีกทางหนึ่ง ก็อย่าหวังว่าจะพบแต่คนดีๆในงานบุญหรือแหล่งกิจกรรมธรรมะ แต่อย่างน้อยให้คิดเสียว่าโอกาสจะเจอคนดีๆควรมีมากกว่าแหล่งกิจกรรมเพื่อความสนุกฉาบฉวยทั้งหลาย
ถ้าได้ยินคำว่า ‘ธรรมะ’ แล้วร้องกับตัวเองว่า ‘ยี้’ หรือ ‘น่าเบื่อจัง’ ก็ขอให้ทราบว่าคุณยังไม่ได้ต้องการความจริงใจเป็นเรื่องเป็นราว เพราะคุณจะเจอคนจริงใจได้ในหมู่คนมีธรรมะเท่านั้น
และเมื่อใดคลุกคลีกับธรรมะมากพอ คุณจะพบว่าธรรมะไม่ได้มีแต่ภาพกักบริเวณตนเองเพื่อหลุดพ้นจากกิเลส คุณจะเห็นโลกในอีกมิติหนึ่ง คือไม่ใช่เอาแต่มองหารูปเสียงน่าชอบใจภายนอก แต่จะเริ่มแสวงหาความรู้สึกแสนดีน่าครอบครองอันเป็นภายใน
คุณจะตระหนักว่าความรู้สึกแสนดีไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ต้องมีวิธีอะไรอย่างหนึ่งหรือหลายๆอย่างทำให้มันเกิดขึ้น เช่นกำหนดกรอบไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้ความโลภและความโกรธทะยานแรงขึ้นถึงระดับที่จะกระทำการอันเป็นความเดือดร้อนของคนอื่น เมื่อรู้สึกตัวเองว่าเป็นความปลอดภัยให้คนอื่นได้ คุณก็จะรู้สึกถึงความไม่เดือดเนื้อร้อนใจของตนเองด้วย
จากนั้นเขยิบขึ้นไปอีก เช่นรู้จักสละสิ่งที่คุณมีให้คนอื่นทั้งที่ไม่จำเป็นต้องให้ คุณจะลืมคำว่า ‘ให้ทำไมให้โง่’ แต่จะพบคำใหม่ในหัวตัวเองคือ ‘ทำไมมัวโง่ไม่ให้มาเสียตั้งนาน’ คุณจะรู้ว่าการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนนั้นเป็นสุข และคุณก็อาจจะรู้ว่าในที่สุดแล้ว การเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนนั่นเอง จะพาคุณไปรู้จักกับคนประเภทเดียวกัน โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ในวันใดวันหนึ่ง
สรุปคือถ้าแสวงหาคนจริงใจอยู่ และยังไม่เลิกย่อท้อ ก็ขอให้ปลูกฝังความซื่อสัตย์จริงใจให้เกิดขึ้นในตนเองก่อน และพยายามรักษามันไว้จนลมหายใจสุดท้าย พอเชื่อได้ว่าอย่างน้อยมีคุณคนหนึ่งในโลกที่ซื่อสัตย์และจริงใจ จะได้ไม่ต้องไปแสวงหาคำตอบจากที่ไหนว่าคนซื่อสัตย์และจริงใจมีอยู่แต่ในนิทานหรือมีตัวตนอยู่ในโลกความจริงนี้ด้วย
นอกจากนั้นถ้าจะแสวงหา ก็ควรแสวงหาในที่ที่มี อย่ามัวเสียเวลาไปแสวงหาในที่ที่ไม่มี ผมให้คำรับรองไม่ได้ว่าคุณจะเจอเมื่อไหร่ แต่เชื่อมั่นว่าวันหนึ่งคุณจะได้เจอครับ ด้วย ‘กรรม’ และ ‘ความเข้าใจ’ ที่ถูกต้องนั่นเอง
โดย ดังตฤณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น